Spring Trip in Central Europe ดอกไม้บาน ณ ยุโรปกลาง

Cesky Krumlov
Hello everyone กลับมาเจอกันอีกแล้วนะครับสำหรับการรีวิวการเดินทางในทวีปยุโรปเป็นครั้งแรกในชีวิตผม ตอนแรกก็วางไว้หลายประเทศเหมือนกัน ทั้งเกาะอังกฤษ ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ และอื่นๆอีกมากมาย แต่สุดท้ายตัดสินใจไป 4 ประเทศทางยุโรปกลางเพราะคิดว่าค่าใช้จ่ายไม่น่าจะแพงเท่าไหร่ ก็เลยลงตัวที่ Prague (Czech Repiblic), Krakow (Poland), Budapest (Hungary), Vienna (Austria) แล้วมาจบที่ Cesky Krumlov (Czech) เป็นที่สุดท้าย

เหมือนเช่นเคยนะครับ ทริปนี้เราก็เริ่มออกเดินทางจากกรุง Kuala Lumpur เหมือนเดิม เพราะสะดวกกว่าและราคาถูกกว่าพอตัว รอบนี้ผมใช้บริการของสายการบิน China Eastern Airlines (ไปกลับจาก KL-PVG-KL นั่ง Shanghai Airlines) ขาไปวุ่นวายหน่อยเพราะแวะเปลี่ยนเครื่องหลายที่ คือที่สนามบิน Shanghai Pudong Airport (PVG) กับ Xi'an Xianyang Airport จนทำให้มือถือตกหล่นที่ Security Check ของ Shanghai Airport แล้วบินต่อไปยัง Vaclav Havel Airport Prague รวมๆแล้วใช้เวลาบินประมาณ 15 ชั่วโมง เครื่องบินจาก Shanghai - Prague เป็น Boeing 737-800 ก็ถือว่าโอเคนะครับ มีไวไฟให้ใช้บนเครื่องด้วย แต่ถ้าจะเล่น FB ก็ต้องติดตั้ง VPN ไม่งั้นเล่นไม่ได้ แถมมี IFE ด้วย ดังนั้นไม่ต้องกลัวว่าจะเบื่อ ส่วนอาหารก็เสริฟสองรอบ ก็พอทานได้ครับ ไม่ได้แย่หรือว่าหรูอะไรมากมาย

แผนการเดินทางยุโรปคร่าวๆมีดังนี้ครับ

12/4/18       ออกเดินทางจาก KL โดยสายการบิน China Eastern ไปยัง Prague
13/4/18       Wenceslas Sq., Prague Old Town, Prague Castle, Opera, Prague @ night
14/4/18       Wenceslas Sq., Prague Old Town, Rudolfinum ตอนบ่ายนั่งรถบัสไป Karkow 
15/4/18       เดินเล่นใน Krakow ทั้งวัน ออกเดินทางไปยัง Budapest ตอนเกือบเที่ยงคืน
16/4/18       ถึงที่ Budapest ตอนเช้า แล้วเดินเล่นแถว ฺ Buda Castle, Chain Bridge
17/4/18       St. Stephen's Basillica, Hungarian Parliament, Heroes Square, Vajdahunyad
                  Castle, State Opera, เดินเล่นริมแม่น้ำ Danube เพื่อชมอาคารัฐสภายามราตรี 
18/4/18       เดินทางไปยัง Vienna และเดินเล่นชมรอบเมืองทั้งวัน
19/4/18       Schonbrunn Palace ตอนเย็นนั่งรถไป Prague
20/4/18       ออกเดินทางจาก Prague ไปยัง Cesky Krumlov
21/4/18       ตอนบ่ายสอง นั่งเครื่องกลับ KL แวะ PVG
22/4/18       ถึง KL

Day 1  12/4/18

วันแรกเราออกเดินทางจาก KL ตั้งแต่ตี 2.30 โดยสายการบิน Shanghai Airlines แต่จะแวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบิน Shanghai Pudong Airport (PVG) แล้วนั่ง China Eastern Arilines ไปยัง Xi'an Xianyang Airport เพื่อรับคนแล้วบินต่อไปยัง Vaclav Havel Airport Prague ถึงกรุงปรากตอนประมาณทุ่มนึง แต่ฟ้ายังสว่างอยู่ วันนี้โชคดีที่ได้รู้จักกับครูสอนภาษาอังกฤษชาวฟิลิปปินส์ แล้วเพื่อนเค้ามารับที่สนามบิน เค้าก็เลยพาไปซื้อมือถือที่ห้าง Chodov Centrum เพราะมือถือตกหล่นที่สนามบิน PVG จากนั้นก็นั่งใต้ดินสายสีแดงจากห้าง Chodov ไปลงที่ I.P. Pavlova ซึ่งที่พัก Hostel Bell อยู่ไม่ไกลจากสถานีนี้ ไปถึงก็สี่ทุ่มกว่าแล้ว ก็ขอนอนพักก่อนนะครับ พรุ่งนี้เราค่อยไปเที่ยวกัน 😴😷
China Eastern Airlines มีไวไฟบนเครื่อง
สนามบิน Prague
ห้องละหมาดที่สนามบิน Prague
ห้องละหมาดที่ สนามบิน Prague
Day 2  13/4/18
Prague Metro
เนื่องจากว่าที่พักเราอยู่ไม่ไกลจาก Wenceslas Square ก็เลยขอเดินไปละกันแล้วเริ่มเดินชมเมืองปรากจากจตุรัสแห่งนี้ แต่เสียดายที่นี่มีการซ่อมแซ่มอาคารอยู่ก็เลยอดได้รูปสวยๆ หลังจากนั้นก็เดินไปมั่วๆ เจออะไรก็ไปทางนั้น เห็นอาคาร Powder Tower มาแต่ไกลก็เลยแวะไปที่นี่ก่อนเลย บอกตรงๆเลยว่าอาคารที่นี่มีแต่ตึกอลังการ มันสวยไปหมดจนไม่รู้ว่าจะถ่ายรูปตรงไหนดี เหอๆๆๆๆ 😅😅😅 หลังจากนั้นก็เดินซอกแซกไปเรื่อยๆ เจอโบสถ์ยิวบ้าง อาคารโน่นนี่บ้าง สวยจริงๆ แต่ถ่ายไม่จุเพราะมันใหญ่เกินแล้วอยู่ในที่แคบอีก
Wenceslas Square
ไปรษณีย์ปราก

Powder Tower
อาคารสวยๆในปราก
โบสถ์ยิว
ร้านขายของที่ระลึกระหว่างทางไป Old Town Square







เสร็จแล้วก็ไปเจอ Municipal Hall ก็สวยมากนะ จากนั้นก็ไปยังจุดที่ใครๆก็พลาดไม่ได้ นั่นก็คือ Prague Old Town Square ตรงนี้ก็จะมี Tyn Church อันเลื่องชื่อกับ หอนาฬิกาดาราศาสตร์ แต่น่าเสียดายที่ปิดซ่อมแซ่มอยู่ ก็เลยอดดูไฮไลท์ของมัน
Municipality Hall
Prague Old Town
Old Town Square
Old Town Square
Tyn Church
ถ่ายรูปสักพักก็ไปแลกตังค์ที่ร้าน eXchange อยู่ที่หัวมุมถนน Kaprova กับ Maiselova ร้านนี้เป็นร้านที่ให้เรทดีที่สุดในเมืองนี้และไม่โกงด้วย หาข้อมูลได้จากที่เว็บนี้เลย https://www.exchange.cz/mobile แถมมีคูปองมาให้ด้วยนะ เอาไปใช้แล้วมาด้วยและใช้ซ้ำได้อีก เหมือนเค้าจะลดราคา 1 CZK
Coupon ใช้ตอนแลกเงินที่ร้าน

หลังจากนั้นก็เดินไปเรื่อยๆจนถึง Charles Bridge แล้วภาพของ Prague Castle ที่เห็นอยู่ด้านหน้าสวยมากๆ บรรยากาศในวันฟ้าหม่นชวนให้รู้สึกโรแมนติก แต่เสียดายเราไม่มีคู่ อิอิ 😘😘😘
Prague Castle
Charles Bridge
Charles Bridge
พอเดินจนเหนื่อยแล้วก็ขอกลับไปที่พักก่อน ก่อนถึงที่พักก็ขอหาอะไรง่ายๆทานละกัน ก็เลยแวะกินโดเนอร์เคบับ ก็อร่อยดีนะ เสร็จแล้วก็แวะพักขาแป๊บนึงก่อนที่จะมาลุยต่อในช่วงบ่าย
Doner Kebab
พอหายเหนื่อยแล้วก็ไม่รีรอที่จะออกไปข้างนอกต่อ แต่ว่าท้องฟ้าเริ่มมืดขึ้นกว่าเดิมคล้ายฝนจะตก แต่ก็ไม่หวั่น ก็เลยเดินไปเรื่อยๆไปจนถึง National Theatre อลังการยิ่งใหญ่มาก อยู่ติดแม่น้ำ Vltava เลย ซึ่งบริเวณนั้นก็มีสวนกับตึกสีสันสวยงามเรียงรายมากมาย มันสุดยอดมากเลยจอร์จ นายต้องมาดูเองกับตา
ตึกสีสันสวยๆริมแม่น้ำ Vltalva
Tram หน้าโรงละครแห่งชาติ
ตึกสวยๆแถวโรงละครแห่งชาติปราก
สวนตรงข้ามโรงละครแห่งชาติ
Dancing House
พอเดินไปเรื่อยๆก็จะเจอกับ Dancing House เป็นอาคารตึกแปลกๆ บิดไปบิดมา ก็เก๋ไปอีกแบบ
หลังจากนั้นฝนก็เริ่มเทมาละก็เลยรีบข้ามฝั่งไปเพื่อหลบฝน ติดฝนอยู่สักพัก พอฝนซาก็เลยรีบเดินกลับห้อง แต่ระหว่างทางก็เดินไปช๊อปของกินเล็กน้อยที่ Tops Supermarket ราคาก็ไม่ได้แพงมากนะที่นี่ ยังรับได้อยู่ วันนั้นก็ได้ส้มมาครึ่งโล น้ำโซดา ขนมปังโฮลหวีต มาม่า เอาไว้กินยามฉุกเฉิน ตอนนี้ขอนอนพักแป๊บนึงนะ เดี๋ยวจะออกไปเก็บบรรยากาศตอนค่ำต่อ โรแมนติกสุดๆเลย
ปราสาทปรากยามเย็น
St. Vitus Cathedral
วิวเมืองปรากยามเย็นจากบนปราสาท
Charles Bridge ยามเย็นฝนตกหนาวๆ
ปราสาทปรากยามราตรี
Day 3   14/8/18

วันนี้ต้อง Check Out แล้วเพราะบ่ายวันนี้เราจะย้ายไปยังเมืองที่สองนั่นก็คือ Krakow Poland วันนี้ก็เลยจำเป็นต้องลากกระเป๋าออกไปเดินเล่นด้วยกัน อิอิ ก็เหมือนเช่นเคย เริ่มเดินจาก Wenceslas Square เดินไปเรื่อยๆ เจออะไรสวยๆก็แวะถ่ายไปเรื่อย จนมาหยุดที่ Rudolfinum ซึ่งเป็นทั้งโรงละคร พิพิทธภัณฑ์และหอศิลป์ วันนั้นตอนที่ไปมีการจัดนิทรรศการภาพวาดของจิตรกรชื่อดัง แถมเข้าฟรีด้วย เลยขอฆ่าเวลารอรถไปโปแลนด์ที่นี่ละกัน ส่วนกระเป๋าที่ลากมาด้วยก็สามารถไปฝากไว้ที่ Cloak Room ในนั้นฟรี
Rudolfinum
ด้านใน Rudolfinum
ด้านใน Rudolfinum
งานแสดงภาพวาดของศิลปินชื่อดัง
งานศิลปะแบบเคลื่อนไหว
ก่อนถึงเวลารถออกสักครึ่งชั่วโมงก็นั่งรถใต้ดินสถานีใกล้ๆนั้น คือ Staromestska (สาย A เขียว) ไปลงที่ สถานี Florenc (สาย C แดง) เดินออกไปนอกสถานีก็จะเจอสถานีรถบัส ให้ไปถามเจ้าหน้าที่ที่ Information ว่ารถที่เราจะนั่งอยู่ Platform ไหนก็ให้ไปรอที่นั่น พอถึงเวลาบ่ายโมงครึ่งก็ได้เวลาออกเดินทางไปยังเมือง Krakow Poland

และแล้วเราก็มาถึงเมืองคราคุฟ ประเทศโปแลนด์ ตอนสามทุ่มกว่า โดยที่รถบัสจะจอดลงที่ Krakow Bus Station (Dworzec Autobusowy) หรือ MDA มีชื่อเยอะเกินจนตอนนั้นกลัวว่าไปผิดสถานี แต่ที่นี่มีแค่สถานีนี้สถานีเดียวนะครับ ไม่ต้องกลัว ซึ่งจะอยู่ติดกับสถานีรถไฟ Krakow Glowny (กลุฟนี) และห้าง Galeria Krakowska ให้เดินเลาะใต้ดินของห้างแล้วมาโผล่ที่หน้าห้างก็จะเจอ Pawia Street ส่วนที่พักของเราอยู่ฝั่งตรงข้าม ข้ามถนนไปก็ถึงแล้วครับ สะดวกมาก ที่นี่เราพักกันที่ Cracow Central Aparthotel ห้องน่ารักดีและสะดวกสบายดี check-in เสร็จแล้วก็แวะไปซื้อของกินที่ร้านสะดวกซื้อ Zabqa (แซ่บค่าาาา 😄😄😄)หน้าที่พัก ราคาไม่แพงเลย ของกินก็หลากหลายดี กินอิ่มแล้วก็ขอพักก่อนละกันเนาะ ค่อยออกไปเที่ยวพรุ่งนี้เช้า

Day 4   15/4/18

วันนี้เรามีเวลาที่นี่ทั้งวันเลย เพราะรถที่จะไป Budapest ออกตอน 23.59 คืนนี้ วันนี้เราก็วนอยู่ในเมืองนี้แหละ ตั้งแต่เช้า บ่าย ค่ำ ก็จะได้บรรยากาศไปหลากหลายแบบ ตอนบ่ายๆก็แวะไปกินข้าวที่ food court บนห้าง Galeria มีร้านค้ามากมายให้เลือกทั้ง KFC MC Subway ร้านอาหารตุรกี และอื่นๆ ราคาก็ไม่แพงเลย
อาหารตุรกีบนห้าง Galeria Krakowska
วันนี้ที่แรกที่เราจะไปคือ Krakow Old Town Square ซึ่งในสมัยเส้นทางสายไหมนั้น ที่นี่เป็นตลาดสินค้าที่สำคัญมากๆของยุโรปเลยก็ว่าได้ พ่อค้าจากประเทศต่างๆก็จะมารับสินค้าจากที่นี่เพื่อไปจำหน่ายต่อในประเทศของตัวเอง และที่จตุรัสนี้ก็จะมี Cloth Hall อันโด่งดัง แต่ตอนนี้ส่วนใหญ่แล้วก็จะกลายเป็นสถานที่จำหน่ายของที่ระลึกต่างๆของเมืองคราคุฟ
Barbarkan
Old Town Square ยามเช้า
Old Town Square ยามเช้า
Old Town Square ยามเช้า
Old Town Square ยามบ่าย
ร้านค้าใน Cloth Hall
จากนั้นเราก็เดินไปทางซ้ายมือของจตุรัสนี้เพื่อไปยัง Wawel Castle ซึ่งเป็นปราสาทที่ให้อารมณ์เหมือนประเทศอังกฤษ สก๊อตแลนด์ ถึงแม้ว่ายังไม่เคยไปประเทศนั้นแต่ก็เคยผ่านตามาบ้างและบรรยากาศที่นี่ดีมากๆ ดอกไม้ต้นไม้สีต่างๆก็กำลังเบ่งบานสวยดี

ด้านนอกปราสาท
ดอกไม้บานภายในปราสาท
ดอกไม้บานภายในปราสาท
หลังจากนั้นก็เดินตระเวนรอบนอกเมืองไปเรื่อยๆ ก็จะมีอาคารสวยๆต่างๆมากมาย เดินชมจนเพลินเลย หลังจากนั้นก็กลับไป Check out ที่พักแล้วก็ฝากกระเป๋าไว้ที่ reception หลังจากนั้นก็ไปหาอะไรกินที่ห้าง Galeria พร้อมกับเล่นเน็ตฟรีๆไปเรื่อยๆ พอท้องฟ้าใกล้มืดก็ออกไปตระเวนเมืองอีกสักรอบ ซึ่งบรรยากาศยามราตรีของที่นี่โรแมนติกมาก ได้ฟีลยุโรปอย่างแท้จริง มีนักดนตรีเครื่องสายต่างๆออกมาบรรเลงตามท้องถนนให้รับฟังแบบฟรี ซึ่งประทับใจมากๆ ถือว่าประทับใจเมืองนี้มากๆ สักห้าทุ่มก็กลับไปรับกระเป๋าที่ รร แล้วก็เดินไปที่สถานีรถบัสด้านหลังห้าง โดยลงไปทางใต้ดินของห้างแล้วเดินเลยสถานีรถไฟแล้วก็ขึ้นบันไดเลื่อนไปยังด้านบนอีกทีเพื่อรอรถบัสที่จะพาเราไปยังปลายทางต่อไป คืนนี้ขอตัวนอนบนรถก่อนนะครับ

โรงละครคราคุฟ
มหาวิทยาลัย
มหาวิทยาลัย
ดอกไม้บานสวยในสวนกลางเมือง
Cloth Hall ยามเย็น
รถม้ายามเย็น
Old Town Square ยามเย็น
นักเชลโล่แสดงหน้าโบสถ์
ฟังดนตรีฟรีๆที่ Old Town Square

Day 5   16/4/18

และแล้วเช้าวันนี้เราก็ได้มาถึงกรุง Budapest ประเทศ Hungary ตอนเกือบๆ 7 โมงเช้าที่สถานีขนส่ง Nepliget (M3 น้ำเงิน) หลังจากนั้นก็นั่งใต้ดินไปลงที่สถานี Blaha Lujza (M2 แดง) ซึ่งที่พักของเราอยู่ไม่ไกลจากสถานีใต้ดินนี้ ที่นี่เราจะพักกันที่ Omega Guesthouse Budapest ที่พักอยู่ตรงข้ามกับโรงแรม Novotel และใกล้ๆนั้นก็มี New York Cafe คาเฟ่ที่สวยที่สุดในโลก
Budapest metro map
Check in เสร็จแล้ว เราก็ออกไปเที่ยวกันเลย วันนี้เราก็เดินไปเหมือนเดิม ซึ่งมานึกได้ทีหลังว่าเดินไปไกลเหมือนกันนะ เราเดินไปทางสถานี Astoria เพื่อไปยังแม่น้ำดานูบ ถ้าไม่อยากเดินก็สามารถนั่งใต้ดินไปลงที่บริเวณแม่น้ำ จะลงฝั่งไหนได้หมดเลย เพราะยังไงก็ต้องข้ามสะพานไปมาอยู่ดี วันนี้หลักๆเราก็เดินแถวสะพาน ริมแม่น้ำ แล้วก็ Buda Castle ซึ่งยิ่งใหญ่อลังการมากกกกกกกกกกกกก ไม่รู้จะสวยไปไหน ชอบที่นี่มากเหมือนกัน พอตอนบ่ายๆก็กลับมาที่พัก ระหว่างกลับก็แวะกินข้าวที่ร้านอาหารตุรกี อร่อยดีราคาก็ไม่ได้แพงมากมาย เสร็จแล้วก็กลับมาพักผ่อน ตอนแรกกะว่าจะออกไปเก็บบรรยากาศตอนกลางคืน แต่เผลอหลับจนถึงค่ำก็เลยอด แต่ก็ไม่เป็นไรเพราะพรุ่งนี้เรามีเวลาอีกทั้งวันทั้งคืน
Chain Bridge
Fishermen's Bastion
Fishermen's Bastion
Fishermen's Bastion
Fishermen's Bastion
Fishermen's Bastion
วิว Chain Bridge จาก Buda Castle
Buda Castle
Buda Castle
Budapest Street



อาหารตุรกี อร่อยและไม่แพง
อาหารตุรกี อร่อยและไม่แพง
Day 6   17/4/18

วันนี้เราออกไปแต่เช้าเลยเพราะว่าจะไปหลายที่ด้วยกัน เริ่มต้นเช้านี้ด้วยการเดินเท้าเช่นเดิม แต่ว่าวันนี้เราจะเดินไปทางอีกฝั่งนึงไปทางสถานี Oktogon (M1 เหลือง) เดินไปเรื่อยๆจนเจอสี่แยก ธ. แห่งชาติจีน Bank of China ถ้าเลี้ยวซ้ายก็จะไปทาง State Opera และริมแม่น้ำ แต่ถ้าไปทางขวาก็จะไปทาง Heroes Square กับ Vajdahunyad Castle แต่วันนี้เราจะไปทางซ้ายก่อนแล้วค่อยนั่งรถใต้ดินไปที่ Heroes Square
แวะเพิ่มพลังที่ CCC
St. Stephen's Basilica
St. Stephen's Basilica
St. Stephen's Basilica
วิวจาก St. Stephen's Basilica
Liberty Square
Liberty Square
Liberty Square
เราก็เดินถ่ายรูปไปเรื่อยๆ จนผ่านโรงละครโอเปร่า แล้วเดินไปอีกนิดก็จะเจอ St. Stephen's Basilica ซึ่งวันนี้เราจะขึ้นไปบนดาดฟ้าเพื่อดูวิว 360 องศา แต่ว่ายังเช้าเกิน มันเปิดตอน 10 โมง ก็เลยแวะไปกินอาหารเช้าที่ California Coffee Company (CCC) ที่อยู่ด้านหน้าวิหาร พอได้เวลาก็ไปขึ้นหอกัน ถ้าจำไม่เป็นราคาขึ้นลิฟท์ไม่ถึง 100 บาท ถือว่าถูกมากและคุ้มสุดๆ ดูวิวสักพักก็ลงมาด้านล่าง แล้วก็เดินตรงไปทางด้านหน้าวิหาร พอใกล้ๆถึงริมแม่น้ำก็ให้ไปทางซ้ายมือ ก็จะเจอลานน้ำพุที่ Liberty Square ไปเรื่อยๆก็จะเจออาคารรัฐสภาของฮังการีตั้งตระหง่าอยู่ตรงหน้าเรา ยิ่งใหญ่มากกกกกกกกกกกกกกกกก ไม่รู้จะบรรยายยังไงดี คือมันสวยจริงๆ ถ้าใครที่ต้องการเข้าไปชมด้านในควรซื้อตั๋วออนไลน์ เพราะคิวยาวมากกกกกกกกกกกกกก ขนาดซื้อตั๋วมาแล้วยังต้องรอคิวเข้าเลย เราก็เลยไม่ได้เข้าไป เอาวิวสวยๆด้านนอกก็พอแล้ว
Hungarian Parliament
Hungarian Parliament
Hungarian Parliament
Heroes Square
Hungarian Parliament
Vajdahunyad Castle
Vajdahunyad Castle
Vajdahunyad Castle
Vajdahunyad Castle
หลังจากนั้นก็นั่งใต้ดินใกล้นั้น Kossuth Lajos Ter เพื่อไปยัง Heroes Square ลงที่ป้าย Hosok Tere ออกจากสถานีก็จะเห็นลานอนุสาวรีย์พร้อมกับตัวอักษร BUDAPEST เดินไปด้านหลังก็จะเป็น City Park และด้านในก็จะมี Vajdahunyad Castle สวยงามมากกกก ดอกทิวลิปก็กำลังเบ่งบานสวยเลย และรู้สึกรำคาญอาม่าทัวร์นิดหน่อย เสียงดังมากกกกกกก 😠😠😠😠
Hungarian State Opera
Hungarian State Opera
Hungarian State Opera
Hungarian State Opera
Hungarian State Opera
Hungarian State Opera
เดินเล่นเสร็จแล้วก้เตรียมไปที่ Opera เพื่อเยี่ยมชมความอลังการของโรงละครโอเปร่าของที่นี่ ซึ่งจะเปิดให้เยี่ยมชมทุกวันเวลา บ่าย 2, 3 และ 4 พร้อมกับไกด์ในภาษาต่างๆ ซึ่งแน่นอนเราเลือกภาษาอังกฤษ พร้อมได้ดูคอนเสิร์ตโอเปร่านิดหน่อยแต่ก็โอเคนะ ได้อยู่ แต่เสียดายที่ฮอลล์ใหญ่ปิดปรับปรุง คงอีกหลายปีเลยหละ ไม่งั้นได้ตะลึงตึงตึงแน่ๆ 😍😍😍😍
New York Cafe
New York Cafe
New York Cafe
New York Cafe
New York Cafe
New York Cafe
New York Cafe
New York Cafe
หลังจากนั้นก็เดินกลับไปที่พักเหมือนเดิม แต่ก่อนอื่นก็ขอแวะทานอาหารกลางวันที่คาเฟ่ที่สวยที่สุดในโลกก่อนที่ New York Cafe ซึ่งอยู่ติดกับที่พักเลย คาเฟ่แห่งนี้มีอายุมากถึง 120 ปี ว้าวป่ะละ การตกแต่งภายในก็สุดยอดจริงๆ ใครที่มีเงินเหลือจะพักที่นี่ก็ได้นะ อาหารก็มีหลากหลาย แล้วแต่ว่าเราอยากทานแบบไหน สามารถไปดูรายการอาหารพร้อมราคาได้ที่เว็บของเค้าเลย สามารถดาวน์โหลดมาอ่านได้ด้วยนะ http://www.newyorkcafe.hu/menu.html วันนั้นสั่งเครื่องดื่มกับสลัดอกไก่ หมดไปพันนึงก็ถือว่าคุ้มนะ ทั้งอิ่มทั้งจุใจกับความอลังการของการตกแต่ง ใครที่มา Budapest ต้องอย่าพลาดนะครับ 
Hungarian Parliament ยามเย็น
Hungarian Parliament ยามเย็น
Hungarian Parliament ยามเย็น
Hungarian Parliament ยามเย็น
Hungarian Parliament ยามเย็น
Chain Bridge ยามเย็น
Chain Bridge ยามเย็น
วันนี้อิ่มแล้วก็ขอตัวกลับไปพักก่อน เพราะเดี๋ยวคืนนี้เราจะไปเก็บภาพสวยๆยามค่ำคืนของอาคารรัฐสภากัน กลางวันว่าสวยแล้ว ไปเจอของตอนกลางคืนแล้วตะลึงไปเลย มันสวยมากกกกกกกกกกก อยากอยู่ที่นี่ๆนานไปเลย ซึ่งเราจะนั่งใต้ดินใกล้ที่พัก Blaha Lujza ไปลงที่ Batthyany Ter (M1 แดง) พอออกมาจากสถานีก็จะเห็นอาคารรัฐสภาเลยซึ่งจะอยู่อีกฝั่งของแม่น้ำ แนะนำให้ไปก่อนฟ้ามืด เพราะจะได้เก็บรูปก่อนฟ้ามืดกับหลังฟ้ามืด มันสวยม้อกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ถ่ายจนจุใจแล้วก็เดินริมแม่น้ำไปเรื่อยๆเพื่อเก็บบรรยากาศแถวนั้น แล้วก็เดินกลับไปที่พักเหมือนเดิม วันนี้ก็ขอตัวไปเก็บประเป๋าและนอนก่อนนะครับ พรุ่งนี้ต้องออกเดินทางแต่เช้าเพื่อไปยังปลายทางต่อไป

Day 7  18/4/18

วันนี้เราจะไปอีกประเทศนึงและเป็นประเทศสุดท้ายและมีค่าครองชีพแพงที่สุดของทริปนี้ Check out เสร็จก็นั่งใต้ดินไปยังสถานี Kelenfold (M4 เขียว) ป้ายสุดท้ายเลย นั่งรถตอน 8.45 ไปถึงสถานีรถบัส Edberg ที่กรุง Vienna, Austria ตอนสิบโมงกว่า จากนั้นก็นั่งใต้ดินจากสถานี Edberg ไปยังสถานี Landstrass เพื่อฝากกระเป๋าไว้ที่ Locker Room ที่สถานีรถไฟ Wien Mitte เนื่องจากที่พักให้เข้าพักตอนบ่ายสอง ก็เลยมาฝากที่นี่ก่อนแล้วค่อยมารับตอนเย็นๆ ซึ่งที่ฝากกระเป๋าจะอยู่ที่ห้าง Wien Mitte (เป็นสถานีรถไฟด้วย) ถ้าหาไม่เจอให้ถาม Information

วิธีไปที่ฝากกระเป๋า ให้ไปลงที่สถานี Landstauss (Wien Mitte) แล้วออกทางประตูนี้

 ให้หาสัญลักษณ์กุญแจเหมือนในรูปด้านล่างนี้

 นี่คือทางเข้า

นี่คือล็อคเกอร์ที่ฝากกระเป๋า ไม่ได้มีเยอะเท่าไหร่ ถ้าไม่ว่างก็ให้ไปที่สถานีรถไฟอื่นๆ เช่น Hauptbahnhof, Westbahnhof, Meidling, Praterstern ซึ่งสถานที่เหล่านี้สามารถไปด้วยรถไฟใต้ดิน ค่าฝากประมาณ 2.5 euro/24 ชั่วโมง

เสร็จแล้วก็นั่งใต้ดินต่อ โดยใช้ตั๋วเดิมเพราะยังไม่หมดเวลาเพื่อไปยังสถานี Schottentor ซึ่งเป็นสถานีที่ลงหน้ามหาวิทยาลัยเวียนนา ซึ่งเราจะเริ่มเดินชมเมืองจากจุดนี้
Park near Vienna University
Rathaus City Hall
Rathaus City Hall
Rathaus City Hall
Rathaus City Hall
Hofburg Palace
Hofburg Palace
Hofburg Palace
Hofburg Palace
Hofburg Palace
Museum Quarter

ที่แรกเลยเราก็ไปเยี่ยมชมมหาลัยเวียนนาแป๊บนึง ถัดไปก็จะเป็น Rathaus City Hall เป็นอาคารที่สวยมาก แต่เสียดายมีเต๊นท์อยู่ด้านหน้าเลยดูไม่โอเท่าไหร่ ตรงข้าม Rathaus ก็จะเป็น Hofburg Palace ใกล้ๆกันก็จะมี Vienna Parliament, Museum Quarter
Vienna State Opera
Stephansdom
Stephansdom
Stephansdom
Stephansplatz
Stephansplatz
หลังจากนั้นก็เดินไปเรื่อยๆจนถึง Naschtmarkt จะเป็นตลาดที่มีอาหาร street food มากมาย พอเดินไปอีกก็จะเจอ Vienna State Opera พอเดินตรงไปอีกก็จะเจอ Stephansdom เป็นวิหารที่วิจิตรตระการตามาก และตรงนี้ถือว่าเป็นจุดศูนย์กลางของกรุงเวียนนาเลย มีร้านค้าแบรนด์เนมมากมาย ณ ที่แห่งนี้ และแน่นอน ที่พักของเราก็อยู่ไปทางด้านหลังของวิหารแห่งนี้ไปนิดหน่อย เดินประมาณ 6 นาที ที่นี่เราพักที่ Heart of Vienna Apartment ราคาตกคืนละสามพันกว่าบาท แต่มีพร้อมทุกอย่าง เนื่องจากว่าที่พักแพงหน่อย เราก็เลยซื้อของสดจาก Spar Supermarket เพื่อทำกินเองที่ห้องซึ่งถือว่าคุ้มมาก เพราะราคาของในซุปเปอร์ไม่ได้แพงเท่าไหร่ แถมได้เยอะอีกด้วย
Karlskirche
Karlskirche
ลานน้ำพุใกล้ๆ Karlskirche
Belvedere
Belvedere
Belvedere
Belvedere
Check in เรียบร้อยแล้ว ตอนบ่ายเราก็ออกตระเวนต่อ เราก็เดินฝ่าฝูงชนที่ Stephansdom อีกรอบ เก็บตกบรรยากาศแถวนั้นอีกรอบ แล้วก็เดินตรงไปผ่านโรงละครโอเปร่าจนไปถึง Karlskirche แล้วก็เดินไปเรื่อยๆทางด้านซ้ายมือของวิหาร ผ่านลานน้ำพุ และมุ่งตรงไปเรื่อยๆจนไปถึง Belvedere Palace ซึ่งก็สวยดี เคยเห็นในละคร หนัง พอมาเห็นกับตาเองก็โอเคดีนะ ถึงแม้ว่าอาจจะไม่ว้าวววเหมือนกับประเทศอื่นๆที่ไปสัมผัสมาก่อนหน้านั้น เดินเล่นสักพักก็นั่งใต้ดินเพื่อไปรับกระเป๋าที่ Wien Mitte อีกรอบแล้วก็กลับไปพักผ่อนที่ห้องต่อ ขอตัวไปนอนก่อนนะครับ พรุ่งนี้ค่อยไปเที่ยวกันต่อ

Day 8   19/4/18

เช้านี้เราออกเลทหน่อยนะ ทำอาหารเช้ากินเองด้วย สายๆสัก 10 โมงค่อย Check out แล้วไปฝากกระเป๋าที่เดิม เพราะวันนี้เราจะไปเยี่ยมชมพระราชวังเชินบรูนนของเวียนนากัน ฝากกระเป๋าเสร็จก็นั่งใต้ดินไปที่สถานี Schonbrunn แล้วก็เดินตามฝูงชนมากมายที่มุ่งหน้าไปสู่พระราชวังกันหมดเลย จริงๆเเล้วถ้าเราไม่อยากซื้อตั๋วก็เข้าไปถ่ายรูปอาคารได้นะ แต่ไม่สามารถเข้าไปที่สวนดอกไม้ สวนเขาวงกต หรือในตัวอาคารพระราชวัง โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าสวนก็งั้นๆแหละ เข้าไม่เข้าก็มีค่าเท่ากัน แต่พระราชวังถ้าไม่เข้าใจแล้วจะเสียใจมากๆๆ คือด้านในมันอลังการมากกก ไม่รู้จะบรรยายยังไงดี เพราะถ่ายรูปให้ดูไม่ได้ รอบนี้เราซื้อตั๋วแบบ Classic Pass คิดว่าเหมาะกับเราที่สุดแล้ว สามารถเข้าไปได้ทุกส่วนของพระราชวังและสวน สนนราคาที่ 24 euro และจะมีการจำกัดจำนวนคนเข้าชมพระราชวังด้วย ดังนั้นแต่ละคนจะได้ตั๋วพร้อมเวลาที่เราสามารถเข้าไปข้างในได้ ตอนนั้นยังมีเวลาเหลืออยู่ก็เลยเข้าไปเดินเล่นที่สวนดอกไม้ก่อนเลย แต่ไม่มีอะไรเห้ไรเลย 😅😅😅😅 คือเฉยๆมาก แต่ไหนๆก็มีตั๋วแล้วก็เข้าไปดูสักหน่อย พอใกล้เวลาเข้าชมพระราชวัง ก็ไปฝากกระเป๋าเป้ที่เคาน์เตอร์เลย พอเข้าไปด้านในก็สามารถรับ Audio Guide ได้ตามภาษาที่เราถนัด (Englisch) ไปห้องไหนก็ให้กดเบอร์นั้นก็จะมีคนบรรยายเกี่ยวกับห้องนั้นๆ เราซื้อตั๋วแพงก็เลยได้เดินดูทุกห้องประมาณ 40 ห้อง
Schonbrunn Palace
Schonbrunn Palace
Schonbrunn Palace
Schonbrunn Palace
Schonbrunn Palace
Gloriette
Gloriette
Gloriette
มุมสูงจาก Gloriette
มุมสูงจาก Gloriette
Schonbrunn Palace
Schonbrunn Palace
Schonbrunn Palace
เดินชมเสร็จแล้วก็เดินไปทางด้านหลังพระราชวัง ก็จะเจอกับสวนที่กว้างงงงงงมากซึ่งไม่ไกลจากนั้นก็จะเจอ Gloriette สวยทีเดียวเลย เราซื้อตั๋วแพงก็เลยสามารถขึ้นไปบนนั้นได้เพื่อชมวิวมุมสูงได้ หลังจากนั้นก็เดินลงไปที่สวนวงกต เดินงงอยู่พักนึงกว่าจะเจอทางออก แต่ก็สนุกดีนะ เดินทั่วพระราชวังจนเหนื่อยละ ก็เลยรีบนั่งใต้ดินเพื่อไปยังมัสยิด Alhidayah ที่สถานี Nestroyplatz (U1 แดง) ออกมาจากสถานีก็จะเจอมัสยิดเลย ซึ่งเป็นตึกแถวอยู่ด้านขวามือของสถานี ตรงข้ามจะเป็นโบสถ์สวยๆ หลังจากละหมาดเสร็จแล้วก็นั่งรถไปที่สถานี Landstrauss เพื่อรับกระเป๋าและหาไรกินที่ร้าน Spar ของกินในนี้ไม่แพงเลยนะ มีราคาตั้งแต่ 0.99 euro จนถึง 3 euro วันนั้นซื้อมา 4-5 อย่างราคาประมาณ 5-6 euro ก็ถือว่าไม่แพงแล้วนะสำหรับกรุงเวียนนา ก่อนรถออกประมาณชั่วโมงก็ไปที่สถานีรถบัส Edberg เลยเพราะว่านัดกับรุ่นพี่ไว้ นั่งเม้าท์มอยไปสักพักนึง ก็ได้เวลาร่ำลากรุงเวียนนา และสถานีต่อไปที่เราจะไปก็คือ ปราก อีกครั้งนึง แต่รอบนี้เราไม่ได้เที่ยวในปรากนะ แต่เราจะไปที่เมืองทางใต้ปรากที่มีชื่อว่า Cesky Krumlov
Masjid Al-Hidayah
รถออกจากเวียนนาประมาณ 5 โมงกว่า ไปถึงที่สถานีรถไฟปรากตอนประมาณสามทุ่มครึ่ง และคืนนี้เราพักกันที่ Hostel Rosemary ซึ่งอยู่ไม่ไกลจาก Prague Main Railway Station แต่รอบนี้เราไม่ได้นอนคนเดียว เพราะเราพักห้องพักรวม 5 คน เนื่องจากว่าเราไม่ได้อยู่ที่ห้องเลย เพราะต้องออกจากที่พักแต่เช้าตรู่แล้วกลับมาอีกทีก็ตอนสี่ห้าทุ่ม ก็เลยนอนโรงแรมถูกๆนี่แหละ คืนนี้ขอตัวนอนก่อนนะ เจอกันพรุ่งนี้เช้าเลย 😴😴😴😴😴

Day 9   20/4/18

มอร์นิ่งทุกคน วันนี้เราออกจากที่พักแต่เช้าเลย เพราะเราต้องนั่งรถบัสเพื่อไปยังเมือง Cesky Krumlov ตอน 7.30 และสถานีรถก็อยู่ไกลพอควร นั่งใต้ดินสายสีแดงจากสถานีรถไฟไปลงที่สถานี Rozytly ออกไปด้านนอกสถานีแล้วเดินไปทางซ้ายมือก็จะเห็นที่จอดรถบัสเต็มไปหมด ส่วนป้ายที่ไป Cesky Krumlov อยู่ที่ป้ายเลข 5

นั่งรถประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าก็มาถึงสถานีรถบัส Cesky Krumlov หลังจากนั้นเดินตามฝูงชนไปเลย และเตรียมตัวถ่ายรูปรัวๆได้เลย เพราะที่นี่สวยมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกเราชอบที่นี่ทึ่สุดแล้ว คือ มันสวยมาก น่าอยู่มาก อาคารบ้านเรือนแบบชนบทสวยๆ มีดอกไม้บานเต็มเนินเขาไปหมดเลย ไปดูรูปเอาเองละกันนะครับ
Cesky Krumlov
Cesky Krumlov
Cesky Krumlov
Cesky Krumlov
Cesky Krumlov
Cesky Krumlov
ตอนบ่ายก็แอบไปละหมาดบนเขา เพราะไม่มีผู้คนเลย และที่สำคัญมันสวยมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก หลังจากละหมาดเสร็จก็เดินรอบๆปราสาท วิวสวยสุดๆ ดีใจที่ได้มาสัมผัสเมืองนี้เพราะมันสวยเกินคาด
Cesky Krumlov
Cesky Krumlov
Cesky Krumlov
Cesky Krumlov
เหนื่อยแล้วก้พักกินเคบับแป๊บนึง เห็นมีร้านเคบับฮาลาลอยู่แค่ร้านเดียว ซื้อมาอันเดียวแต่อิ่มเว่อร์ นอกจากนั้นก็ยังได้ลิ้มลอง Trdelnik Ice Cream เป็นไอติมใส่ขนมปังหวานหนาๆ อร่อยดีนะ แต่เลี่ยนหน่อยๆ กว่าจะกินหมดก็นานพอสมควร วันนี้เดินจนจุใจไปเลย เดินเสร็จก้ไปนั่งรถตอนทุ่มนึงเพื่อกลับไปยัง ปราก กว่าจะถึงที่พักก็สี่ทุ่มกว่าแล้ว อาบน้ำเสร็จก้รีบเข้านอนเลย
Trdelnik with Ice Cream
Day 10  21/4/18

วันนี้คือวันสุดท้ายของทริปนี้แล้ว ไม่ได้มีโปรแกรมเที่ยวอะไรแล้ว นอกจากนอนพักผ่อนสบายๆ ตื่นสายๆได้ วันนี้เราจะนั่งใต้ดินสายสีเขียวไปที่สถานี Nadrazi Veleslavin แล้วต่อด้วยรถบัสสาย 119 โดยใช้ตั๋วใบเดียวกัน แล้วไปที่ Terminal 1 ของสนามบินปราก หลังจากนั้นก็ไปเช็คอินตามปกติ

สำหรับรีวิวทริปนี้ก้หมดเพียงเท่านี้นะครับ หวังว่ามันจะเป็นประโยชน์สำหรับทุกๆคนนะครับ เดี๋ยวค่อยมารีวิวต่อสำหรับทริปต่อไปนะครับ จะไปประเทศไหนนั้นค่อยมาลุ้นด้วยกันนะครับ ขอบคุณที่สละเวลามาอ่านนะครับ แล้วเจอกันใหม่ บายยยยย 🙏🙋🙋🙋

ที่พัก
1. Prague - สองวันแรกพักที่  Hostel Bell ห้องก็แคบๆแต่อยู่คนเดียวได้ ห้องน้ำรวม มีครัว อยู่ชั้นห้าไม่มีลิฟท์ รีเซปชั่นเปิดปิดเวลาแน่นอน ถ้ามาถึงดึกๆก็ต้องติดต่อกับพนักงานก่อนล่วงหน้า ไม่งั้นอาจจะไม่มีที่พักนะ

2. Krakow - ที่นี่พักที่ Centreal Cracow Aparthotel ห้องสวยดี ห้องน้ำใหญ่สะอาด ใกล้สถานีรถบัส รถไฟ ห้าง อยู่ใจกลางเมือง ตรงข้ามที่พักมีร้านสะดวกซื้อกับเบเกอรี่ สามารถฝากกระเป๋าได้หลังจาก check out


3. Budapest - พักที่ Omega Guesthouse Budapest สองคืน ห้องกำลังดีแต่ชอบห้องน้ำที่สุด เพราะกว้างและมีอ่างน้ำให้แช่ อยู่ใกล้ใต้ดินและ New York Cafe


4. Vienna - เราที่พัก Haert of Vienna Apartment หนึ่งคืน ห้องพักสวยและกว้าง มีทุกอย่างพร้อม สมกับราคาที่แพงกว่าประเทศอื่น แต่ก็สามารถทดค่าห้องที่แพงด้วยการทำกับข้าวกินเองที่บ้าน จะได้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้บ้าง






5. Prague - พักที่ Hostel Rosemary สองคืน แต่ไม่ค่อยได้อยู่ห้องเท่าไหร่ ก็เลยเลือกที่นี่ซึ่งเป็นห้องรวมห้าคน ห้องน้ำรวม แต่ก็ไม่ได้แย่อะไรนะ ทุกคนโอเค ไม่ได้เสียงดัง

การเดินทางระหว่างเมืองและประเทศโดย FLIXBUS
ทริปนี้ใช้บริการ Flixbus ราคาไม่แพงเลย โชคดีมากที่ได้ราคาถูกถึง 1.99 euro มาถึงสองเที่ยวด้วยกัน นั่นก็คือ จาก Prague-Krakow-Budapest บนรถมีไวไฟที่แรงพอสมควร ให้ลงชื่อใช้ทาง www.flix-media.com และมีห้องน้ำบนรถด้วย
การเดินทางในเมืองต่างๆโดยรถสาธารณะ
ทริปนี้ส่วนใหญ่เเล้วจะนั่งแต่ใต้ดิน ซึ่งราคาโดยสารมีหลายราคาหลายแบบด้วยกัน แบบซื้อครั้งเดียวใช้ได้ 30 นาที 60 นาที หรือเป็น วัน สัปดาห์ แล้วแต่ชนิดการเดินทางของเรา โดยที่ตั๋วใบเดียวสามารถขึ้นได้ทั้งรถไฟใต้ดิน รถรางหรือรถบัส ภายในเวลาที่จำกัด และที่สำคัญ เราควร Validate ตั๋วตอนครั้งแรกที่จะใช้มันด้วยจนกว่าจะใช้ตั๋วใบใหม่ เครื่อง Validator จะเป็นเครื่องสีเหลืองอยู่ที่ทางเข้าสถานีรถไฟ หรือบนรถรางกับรถบัส ถ้าเราขึ้นใต้ดินก่อนก็ให้ตอกบัตรที่สถานีใต้ดิน แล้วถ้าจะนั่งรถบัสหรือรถรางต่อจากนั้นภายในเวลาที่กำหนดไว้ ก็ไม่ต้องตอกบัตรบนรถแล้ว เช่น ถ้าเราซื้อตั๋ว 30 นาที แล้วตอกบัตรตอน 10.30 เราก็สามารถใช้ตั๋วใบเดิมกับรถโดยสารแบบไหนก้ได้จนถึงเวลา 11.00 เข้าใจนะครับ สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.myczechrepublic.com/prague/tickets_fares.html

ถ้าหากว่าใครโดยสารโดยไม่มีตั๋วหรือไม่ได้ตอกบัตร ไม่ว่าจะลืมหรือไม่ลืม แล้วมีพนักงานมาตรวจ ถือว่าคุณซวยเลยนะครับ เพราะจะโดนปรับหลายเท่าเลย ตลอดทั้งทริปนี้เราโดนตรวจแค่ครั้งเดียวที่ Budapest 
Ticket Validator เครื่องตอกบัตรที่ปราก
ค่าใช้จ่าย
สรุปค่าใช้จ่าย ยุโรป 4 ประเทศ Czech republic, Poland, Hungary & Austria
ก่อนมาเที่ยว แลกเงินมาประมาณ 469$ กับ 100€ ประมาณ 18,000 บาทมั้ง
วันนี้เหลือเงินอยู่อีก 269$ กับ 0 € สรุปทริป 9-10 วันใช้เงินไป ประมาณ 10,000บาท

1. อันนี้เฉพาะค่าใช้จ่ายๆต่างๆ ค่ากิน และค่าที่พัก(2คืน) ส่วนอีก6คืนหักเครดิตก่อนมาแล้ว 6,000 กว่าบาท

2. ค่าตั๋วเครื่องบิน 17960บาท

3. ค่ารถบัสระหว่างประเทศ 6 เที่ยว 1523 บาท

ค่าใช้จ่ายทริปนี้รวมทั้งหมดแล้ว ประมาณ 35-36,000 บาท ก็ถือว่าถูกมากสำหรับทริปยุโรป 4 ประเทศ 9-10 วัน ถ้ามีคนหารค่าที่พักก็จะถูกกว่านี้อีก

เรียงลำดับประเทศจากชอบที่สุดไปยังชอบน้อยที่สุด
1. อันดับแรกขอมอบให้กับเมือง Cesky Krumlov

2. ปราก

3. บูดาเปช

4. คราคูฟ กับ เวียนนา

เพราะเหตุใดนั้น ให้ดูรูปเอาเองละกัน ถ้าจะให้ชัวร์ก็ต้องมาเที่ยวเองนาจาาาา 😎😎😎😎😎


SEE YOU NEXT TIME


ความคิดเห็น