Winter trip in Aussie & New Zealand ทริปหนาวที่ซีกโลกใต้ ณ ออสเตรเลียกับนิวซีแลนด์ (Ep.2)

      
Scenice View at the Queenstown Airport
       😎สวัสดีครับ Kia Ora ยินดีต้อนรับกลับมาสู่กับการรีวิวทริป ณ เมือง Queenstown ประเทศ New Zealandกันต่อนะครับ หลังจากตอนที่แล้วรีวิวไปแล้วกับเมืองซิดนีย์แห่งประเทศจิงโจ้ ประเทศนี้เป็นประเทศในฝันเลยนะครับที่อยากจะมาสัมผัสธรรมชาติอันสวยงาม แต่ไม่ได้คาดคิดว่าจะได้เร็วขนาดนี้ เพราะยังไม่ได้อยู่แพลนเพราะเป็นประเทศที่มีค่าครองชีพสูงอันดับต้นๆของโลกเหมือนกัน แต่ไหนๆก็ได้มาออสเตรเลียแล้วก็เลยแวะมาที่นี่เลยละกัน บินมาแปบเดียวก็ถึงแล้ว แต่เนื่องจากว่ามีเวลาแค่ 5 วัน เราก็เลยมาเที่ยวแค่เมืองเดียว นั่นก็คือเมือง Queenstown เหตุผลที่เลือกเมืองนี้ก็เพราะว่าเป็นเมืองเล็กๆที่ค่อนข้างมีทุกอย่างครบ ธรรมชาติที่อยู่รอบเมืองโดยสามารถเดินไปถึง มีทั้งทะเลสาบ ภูเขาหิมะห้าหกลูก และทางเดินเทรลธรรมชาติที่หลากหลาย ที่สำคัญไม่ต้องขับรถไปไกลๆ แค่ใช้เท้าเดินก็ถึงแล้ว

Day 3

       หลังจากเช็คเอ้าท์ บ่ายวันนี้เราก็จะไปนิวซีแลนด์กันต่อนะครับ วันนี้เราใช้บริการของ Jetstar  เช็คอินเสร็จแล้วก็ขึ้นไปละหมาดที่โซนออฟฟิศชั้น 3 จะมีห้องละหมาดสำหรับมุสลิมกับห้องสวดมนต์ของคริสต์ แต่ส่วนใหญ่ก็มีแต่มุสลิมนี่แหละที่มาใช้บ่อยๆ แต่ว่าต้องอาบน้ำละหมาดในห้องน้ำนะครับ มีรองแตะให้ ยังไงก็ต้องรักษาความสะอาดของห้องน้ำด้วยนะครับ
Jetstar ที่นั่งแคบไปหน่อย
       หลังจากที่บินมาจากซิดนีย์ ตอนเวลาเกือบๆหกโมงเย็นเราก็มาถึงสนามบิน Queenstown ก่อนมาที่นี่ไม่ได้กังวลเกี่ยวกับการเข้าเมืองเลยแม้แต่นิดเดียว แต่กลายเป็นว่าเป็นประสบการณ์การเข้าเมืองที่ลุ้นระทึกจริงๆ 😒 เพราะโดนซักถามไปสี่ครั้งโดย ตม. สี่คน แต่ที่ลุ้นสุดๆก็คือการเข้าไปในห้องซักถาม มีการค้นกระเป๋า ตรวจสารเสพติด แต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นครับเพราะว่าเป็นคนดี อิอิ ตอนออกมาก็สองทุ่มกว่าแหละ ผู้คนบางตามากเพราะสนามบินใกล้จะปิดละ เราก็ไม่รอช้าที่จะเข้าเมือง

หน้าตาบัตร GO CARD
       การเดินทางแบบประหยัดๆจากสนามบินไปในเมือง ก็แค่ซื้อบัตรโดยสาร GO CARD กับคนขับบนรถ สนนราคาที่ 15 NZD (10 NZD คือค่าโดยสาร 5 NZD คือค่าบัตร) ซึ่งบัตรนี้สารมถใช้ได้ที่เมือง Queenstown (2 NZD) กับ Dunedin (คิดตามโซน) แต่จะคิดราคาต่างกัน ข้อดีของการใช้บัตรนี้คือ จะคิดราคาเพียง 2 NZD จะเปลี่ยนสายกี่ครั้งก็ได้ภายใน 30 นาทีก็จะคิดแค่ราคานี้ แต่ถ้าไม่มีบัตรจะคิดราคาที่ 5 NZD รถบัสในเมืองนี้มีด้วยกันสี่สาย คือ สาย 1 2 3 4 ส่วนรถที่จะเข้าไปในเมืองก็คือรถสาย 1 (Fernhill - Remarkables) ป้ายรถเมล์อยู่ทางซ้ายมือของสนามบิน ให้นั่งรถที่จะไปยัง Fernhill พอซื้อบัตรเสร็จแล้วก็ให้วางบัตรบนตู้คิดเงินแล้วจะมีใบเสร็จออก จะลงที่ไหนก็ให้บอกคนขับด้วยว่าเราพักตรงไหน เค้าจะได้บอกเราถูกว่าเราลงตรงไหน ส่วนเราพักในเมืองเลยก็เลยลงถนน  Camp Street ซึ่งอยู่หน้า O'Connell Shopping Centre (เป็นห้างเล็กๆ ที่ชั้นใต้ดินมีร้านอาหารจีน ญี่ปุ่น ไทย แมค ตุรกี อินเดีย เนปาล ส่วนร้านอาหารเกาหลีอยู่ด้านบน) เดินไปแปปเดียวก็ถึงที่พักละ ถ้าจะเติมเงินในบัตรโดยสารก็ให้มาเติมที่หน้าห้างนี้ มีเจ้าหน้าที่มาประจำการอยู่ตอนกลางวัน 🚌🚍  อ้อ ก่อนบินจากมาเลเซีย เราได้แลกตังค์นิวซีแลนด์ที่สนามบินมาแล้ว 50 NZD ก็เพียงพอสำหรับการซื้อบัตรโดยสารกับอาหารวันสองวันแรก ที่เหลือก็ไปแลกเอาตรงข้าม Four Square Supermarket ที่นี่ให้เรทดีนะครับ

ที่พัก

Jucy Snooze Queenstown
Jucy Snooze Queenstown
Jucy Snooze Queenstown
Jucy Snooze Queenstown

       ที่เมือง Queenstown เราพักที่ Jucy Snooze Queenstown ซึ่งเป็นที่พักแคปซูล สงบเงียบดี มีห้องครัวให้ทำอาหารได้(ปิดสี่ทุ่ม) มีไวไฟ สถานที่อยู่ใกล้ป้ายรถบัสในเมือง ป้ายรถทัวร์ต่างๆ ก็ถือว่าดีมากครับ ตอนนี้เวลาประมาณสี่ทุ่มกว่าแล้ว เก็บประเป๋าเสร็จก็ออกไปหาไรกินกัน หิวมากๆ แถวที่พักมีร้านค้ามากมายแต่ว่าต่างก็ทยอยปิดกันแล้ว ก็เลยไปหาของกินง่ายๆที่ซุปเปอร์กัน มีอยู่ร้านนึงเปิด 24 ชั่วโมง Church Street Night 'N Day กินอิ่มแล้วก็ขอตัวไปนอนก่อนนะครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้เรามาลุยกันต่อ 😴😴

Day 4

       ตื่นเช้ามาก็ออกไปหาสลัดถุงกับบะหมี่อินโดที่ Four Square Supermarket เป็นซุปเปอร์ที่อยู่ใกล้กับที่พักและที่ขึ้นรถทัวร์ต่างๆ เราฝากท้องกับอาหารที่นี่บ่อยๆ หลังจากกินอาหารที่ห้องครัวเสร็จแล้วก็พร้อมที่จะออกไปเมืองกันแล้ว โดยวันแรกเราจะเดินเทรลริมทะเลสาบกัน ตอนแรกแค่กะว่าจะเดินเล่นที่ทะเลสาบ แต่เดินไปเดินมาก็เดินไปถึงสนามบินกันเลย เดินทั้งหมดสิบกว่ากิโล แต่ดีที่อากาศหนาวเย็นและบวกกับธรรมชาติที่สวยงามมากก็เลยไม่ได้รู้สึกเหนื่อยอะไร
Lake Wakatipu
Lake Wakatipu
Frankton Track
Lake Wakatipu
Frankton Track
Frankton Track
Frankton Track
Frankton Track

       วันนี้เดินตั้งแต่เช้ามาจนถึงตอนบ่าย ตอนนี้ก็ถึงเวลากลับห้องพักละ จะได้พักและกินอาหารอร่อยๆกันต่อ เดี๋ยวเราค่อยออกมาเดินริมหาดกันตอนเย็นต่อ
Lake Wakatipu
Lake Wakatipu
Lake Wakatipu
       ตอนเย็นก็มีผู้คนมากมายออกชมบรรยากาศสวยๆก่อนตะวันตกดินที่ริมทะเลสาบ Wakatipu เดินผู้คนเดินไปเดินมาช่างมีความสุขเหลือเกิน วันนี้เหนื่อยมาทั้งวันละ เดี๋ยวพรุ่งนี้เราจะไปเดินเขากันต่อ ได้ข่าวว่าเหนื่อยมากแต่ก็คุ่มมาก 😊 สำหรับคืนนี้ ราตรีสวัสดิ์ครับ 😴😴

Day 5

      หลังจากกินข้าวเสร็จเราก็ไม่รีรอที่จะออกไปเดินเขา Ben Lomond กัน จริงๆแล้วถ้าใครคร้านเดินหรือมีเงินเหลือก็สามารถนั่งกระเช้า Skyline Gondola ได้นะครับ แล้วก็ค่อยเดินแทรค Ben Lomond แต่เราเป็นสายขยันเดิน (จริงๆไม่มีเงิน 😄😅) เราก็เลยเดิน Tiki Trail เพื่อขึ้นไปที่สถานี Skyline Gondola ด้านบน เริ่มต้นกันที่ Skyline Gondola ซึ่งอยู่ด้านหลังที่พักเราเอง ให้เดินไปทางสุสานที่อยู่ตรงข้ามสถานี Skyline Gondola ด้านล่าง แล้วก็เดินไปเรื่อยๆตามป้าย Tiki Trail ช่วงแรกๆจะเหนื่อยหน่อยเพราะชันและไม่มีทางเดินที่เรียบ เดินจนเหงื่อไหลโซกเลยทั้งๆที่อากาศหนาว หุหุ ระหว่างทางก้ได้เจอน้องแพะเขาสามตัว กลิ่นแรงด้วย อิอิ เดินไปสักพักก็เริ่มมีบันไดเดินเขา เริ่มมี่ผู้คนสวนทางบ้าง ฟาหมามาวิ่งบ้าง (เดินไม่ไหวก็อายสิ ฮ่าๆๆๆ) เดินประมาณชั่วโมงสองชั่วโมงก็ถึงสถานี Skyline Gondola ตอนนี้เกือบเที่ยงละก็เลยพักดื่มน้ำกินกล้วยแปบ แล้วค่อยไปเก็บรูปวิวสวยๆของทะเลสาบ Wakatipu กับยอดเขาหิมะต่างๆด้านในสถานีกัน หายเหนื่อยแล้วก็เริ่มเดินเขาเพื่อไปยังยอดเขา Ben Lomond กันต่อ
สุสานที่ทางขึ้น Tiki Trail
Tiki Trail
Lake Wakatipu view from Skyline Gondola Viewing Deck
Ben Lomond Saddle
Ben Lomond Trail
Ben Lomond Saddle
Lake Wakatipu view from Ben Lomond Saddle
Lake Wakatipu view from Ben Lomond Saddle
Lake Wakatipu view from Ben Lomond Saddle
Lake Wakatipu view from Ben Lomond Saddle
Ben Lomond Summit view from Ben Lomond Saddle
      เสียดายที่ไม่สามารถเดินพิชิตยอดเขานี้ได้ เนื่องจากว่าเส้นทางเต็มไปด้วยโคลนกับหิมะซึ่งทั้งลื่นและเเฉะ แต่แค่ได้มายืนที่ Ben Lomond Saddle ก็ถือว่าสุดยอดมากแล้ว คุ้มกับที่เกือบตะคริวกินขาแล้ว ชมวิวเต็มอิ่มแล้วก็เดินลงเขาไปยังสถานีกระเช้าอีกครั้งเพื่อหาอาหารลงท้องเพื่อที่จะได้มีแรงเดินลงเขากันต่อ บ่ายนี้ก็เลยกินข้าว Chicken Tikka Massala, Red Velvet Cake และ Carrot Cake สนนราคาเกือบ 30 NZD แต่ว่าอิ่มมาก วันนี้ไม่กินอะไรละ อิอิ อิ่มแล้วก้เดินลงเขากลับไปยังที่พัก ตอนลงมาก็เกือบหลงละ แต่โชคดีที่ไม่หลง ถึงห้องก็เกือบฟ้ามืดละ วันนี้ก็พอแค่นี้ก่อนนะครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้เราจะไปที่ Shotover River กันต่อ บายยยยยยยยยยยยยยย 😴😷

Day 6

      วันนี้วันที่หกแล้วนะครับ เช้านี้เราจะออกไปนอกเมืองหน่อยที่ Arthur's Point โดยนั่งบัสสาย 2 Arthur's Point (นั่งหน้าห้าง) - Arrowtown (นั่งตรงข้ามห้าง) รถสายออกชั่วโมงละคัน ถ้าไม่อยากรอนานก็ให้มารอตอนต้นชั้วโมงนะครับ ถ้าใครอยากเล่น Shotover Jet ก็นั่งบัสนี้เลยหรือจะไปกับทัวร์ก็ไม่ว่ากัน แต่เราไม่เล่นง่ะ เราแค่จะไปเดินเล่นกับถ่ายรูปก็เลยต้องไปเองเท่านั้น แต่ถ้าใครอยากไปหมู่บ้านเหมืองทองก็ให้นั่งไปที่ Arrowtown ที่นี่มีหมู่บ้านชาวจีนที่มาตั้งรกรากสมัยมาขุดทองกัน

       ให้นั่งรถไปลงที่ป้ายสุดท้ายเลย มันอาจจะเหงาๆหน่อยนะเพราะไปคนเดียว เป็นชุมชนที่เงียบสงบ คนไม่เยอะ ธรรมชาติก็สวย พอลงจากรถก็ให้เดินย้อนลงมาที่หมู่บ้านทางด้านซ้ายมือ แล้วจะมีทางเดินลงเข้าไปในป่า ก็ให้เราเดินลงไปเรื่อยๆจนสวรรค์แบบนี้ อิอิ
A village in Arthur's Point
Kawarau River
Kawarau River
Kawarau River
Kawarau River
Kawarau River
Kawarau River
Shotoverjet
Kawarau River Trail
Shotover River Bridge
Shotoverjet
Shotoverjet

เดินเล่นคนเดียวจนเต็มอิ่มแล้วก็เดินไปอีกทางนึงเพื่อไปดูสะพาน Shotover Brdige ป้ายบอกทางไม่มีนะครับ ใช้ใจล้วนๆ เกือบหลงเหมือนกันแต่สุดท้ายก็ไปถึง อิอิ ถ่ายรูปเสร็จแล้วก็กลับที่พักดีกว่า ระหว่างทางเดินไปที่ป้ายรถเมล์ก็เดินผ่านหมู่บ้านสวยๆพร้อมตู้ไปรษณีย์มากมาย เป็นไอเดียที่เจ๋งจริงๆ
Cutie
Cool P.O. Boxes
Bus Stop
Bus Stop

Day 7

       วันนี้เราตื่นกันแต่เช้านะครับ เพราะว่าวันนี้เราซื้อทัวร์ไปกลับ Mount Cook 1 วันกัน ออกเดินทางกันตั้งแต่ 7.30 ขาไปนั่งรถ Queenstown - Mt Cook - Christchurch ส่วนขากลับนั่งรถ Christchurch - Mt. Cook - Queenstown อุทยาน Mount Cook เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในนิวซีแลนด์และที่นี่ยังเป็นจุดที่มืดที่สุดแห่งนึงจึงเหมาะมากสำหรับการดูแสงใต้ แต่เสียดายที่วันนี้ฝนตกเลยทำให้ไม่เห็นวิวสวยที่คาดหวังไว้ เศร้าจริงๆ 😓😔 เราถึงที่นี่ตอนเที่ยง โดยที่รถจะมาส่งเราที่ Hermitage Hotel แล้วตอนขากลับให้เรามาขึ้นรถที่นี่อีกครั้งตอนบ่ายสองนิดๆ

Bus to Mt. Cook
Lake Dunstan on the way to Mt. Cook
Lake Pukaki on a cloudy day
Mt. Cook on a rainy day
Mt. Cook on a rainy day
Mt. Cook on a rainy day
       เรากลับมาถึงที่ Queenstown ประมาณหกโมงกว่าๆ คืนนี้เป็นสุดท้ายของเราแล้ว เดี๋ยวจะออกไปหาไรกินแล้วซื้อของฝากกันต่อ บุยๆๆ

Day 8

      Hello วันนี้เป็นเช้าวันสุดท้ายของเราที่ Queenstown แล้วนะครับ แต่เรายังมีเวลช่วงเช้าอีกหลายชั่วโมงก่อนบินบ่ายสองครึ่ง หลังจากเช็คเอ้าท์และฝากกระเป๋าที่โรงแรม เราก็ออกไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะกันต่อเพื่อเก็บความทรงจำดีๆของที่นี่ก่อนกลับบ้าน

Lake Wakatipu
Queenstown Church
Cherry blosson starts blooming
Queenstown Garden
Lake Wakatipu
Lake Wakatipu
Lake Wakatipu
Lake Wakatipu
Lake Wakatipu
      ไม่เคยรู้สึกไม่อยากกลับบ้านแบบนี้มาก่อนเลย บอกตรงๆว่าก่อนกลับอาลัยที่นี่มากๆ แต่ก็ต้องกลับมาทำงานเนาะ เดี๋ยวรอบหน้าค่อยมาใหม่ ใกล้เที่ยงละได้เวลาไปสนามบินแล้ว ไปสนามบินก็ให้นั่งรถสาย 1 เหมือนเดิมที่ตรงข้ามห้าง

Air New Zealand at Queenstown Airport
Scenic View from the aircraft
Scenic View from the aircraft
       และแล้วทริปหนาว ณ ซีกโลกใต้ของเราก็จบลงเพียงเท่านี้ ถ้ามีอะไรสงสัยก็ถามมาได้นะครับ ส่วนทริปหน้าจะเป็นประเทศไหนนั้น เรามาลุ้นกร้อมกันนะครับ noho iho rā!






ความคิดเห็น